ประกันภัยรถยนต์ไม่คุ้มครองอะไรบ้าง

ประกันภัยรถยนต์นั้นคุ้มครองหลายกรณีซึ่งขึ้นอยู่กับประเภทระดับชั้นประกันที่เราเลือกซื้อด้วย อุบัติเหตุนั้นมีหลากหลายสถานการณ์และสาเหตุในการเกิดขึ้นถึงแม้ว่าเราจะระมัดระวังในการขับขี่แล้วก็ตาม ก็มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้เสมอ ดังนั้นเราจึงควรเรียนรู้ว่าสถานการณ์ไหนที่ประกันภัยรถยนต์จะไม่คุ้มครองเพื่อที่จะได้ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหล่านั้นขึ้น ซึ่งหลายๆกรณี

ไม่คุ้มครองในกรณีเหตุการณ์ก่อการร้าย หรือ สงคราม : ฟังดูเหมือนเหตุการณ์เหล่านี้จะไกลตัวมากๆและไม่น่าจะเกิดกับใกล้ๆตัวเราได้ แต่ บางเหตุการณ์ก็ใกล้ตัวเราเช่นกัน เช่นกรณีมีภัยคุกคามจากสมครามกลางเมืองหรือมีกลุ่มผู้ประท้วงทำลายรถยนต์ตามท้องถนนที่เราจอดไว้ อาจจะเกิดเหตุระเบิดรถยนต์ รถยนต์มีรอยกระสุน หรือ อาจจะโดนสารกัมมันตรังสีจนรถยนต์ไฟไหม้ 

ไม่คุ้มครองหากใช้รถในทางที่ผิดกฎหมาย : เหตุการณ์ในหมวดหมู่นี้ดูจะเป็นไปได้ที่สุด ที่พวกเราหรือคนใกล้ตัวจะทำเหตุการณ์เหล่านี้

  • ไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่ยังไม่สามารถมีใบขับขี่ได้เช่น อายุไม่ถึง 18 ปีบริบูรณ์ หรือ ใบขับขี่รถยนต์หมดอายุ ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์เหล่านี้ประกันภัยรถยนต์จะไม่คุ้มครองเลยหากเราไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ และอาจจะมีโทษทางกฎหมายติดตัวตามมาด้วย ดังนั้นทาวที่ดีจึงควรต่ออายุใบอนุญาตขับขี่อย่างสม่ำเสมอ และ ไม่ให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 18 ปีใช้รถยนต์เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะเกิดขึ้น
  • ขนของผิดกฎหมาย เช่น ใช้รถยนต์ขนยาเสพติดหรือของผิดกฎหมายทุกประเภทในการลักลอบเข้ามา ไม่ว่าจะรับรู้หรือไม่ก็ตาม หากเป็นรถที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรม โจรกรรม หรือ การลักขโมยขนของต่างๆ ประกันภัยรถยนต์จะถือว่ารถยนต์นั้นไม่เข้าข้อในการชดใช้ต่างๆ
  • เมาแล้วขับ อีกข้อที่หลายๆคนมักชอบทำและเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อยที่สามารถทำได้เพราะคิดว่าคงไม่เกิดอะไรขึ้น แต่กลับกลายเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดการสูญเสีย เช่นกัน ประกันภัยรถยนต์จึงพิจารณาว่ากรณีนี้ไม่เหมาะสมในการคุ้มครอง
  • ดัดแปลงสภาพรถเพื่อเอาไปใช้ในการแข่งขันความเร็ว หากการดัดแปลงรถไม่ใช่เพื่อเพิ่มสมรรถภาพของรถ การเกิดเหตุการณ์อุบัติเหตุขึ้นมา บริษัทประกันภัยก็จะไม่รับผิดชอบใดๆ แต่บางกรณี บางอะไหร่ก็สามารถเพิ่มได้ แต่ต้องทำการแจ้งให้บริษัทประกันรับทราบว่าเราทำอย่างมีเหตุผล เช่นการเพิ่มเบรก โช็คอัพ

ไม่คุ้มครองหากเกิดอุบัติเหตุจากการบรรทุกน้ำหนัก : ซึ่งข้อนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ระบุไว้ว่า หากรถบรรทุกน้ำหนักเกินกฎหมายบังคับจะไม่ได้รับความคุ้มครอง แต่หากเกิดอุบัติเหตุ ความเสียหายที่ตามมาจะได้รับการคุ้มครองอยู่
ไม่คุ้มครองหากตั้งใจให้เกิดอุบัติเหตุ : การกระทำแบบนี้ เช่นการนำรถยนต์ระหว่างครอบครัวหรือคนรู้จักมาชนกันเอง ซึ่งอาจจะเป็ฯความต้องการเปลี่ยนบางส่วนของรถยนต์ หรือมีการสูญเสียเดิมมาอยู่แล้ว ซึ่งการทำแบบนี้ไม่ใช่เพียงบริษัทประกันจะไม่คุ้มครองแต่จะมองว่าเป็นการจงใจในการให้เกิดอุบัติครั้งนี้ขึ้น และ อาจจะเข้าข่ายผิดกฎหมายตามมาตรา 358 อีกด้วย